เมนู

อย่าง. เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บุญกิริยาวัตถุเหล่านั้น มี 3 อย่าง 3 อย่างเป็นไฉน ? คือบุญกิริยาวัตถุสำเร็จ
ด้วยทาน ฯลฯ บุญกิริยาวัตถุสำเร็จด้วยภาวนา ดังนี้.
ก็ในอธิการนี้ บุญกิริยาวัตถุทั้ง 3 อย่าง มีการเป็นไปด้วยอำนาจ
แห่งกุศลเจตนา ที่เป็นกามาวจร 8 ดวง. อุปมาเสมือนหนึ่งว่า เมื่อบุคคล
แสดงธรรมที่คล่องแคล่วก็ไม่คำนึงถึงอนุสนธิเลย ธรรมบางหมวด ก็ดำเนิน
ไปได้ฉันใด เมื่อพระโยคาวจรประกอบเนือง ๆ ซึ่งสมถภาวนา และวิปัสสนา-
ภาวนาที่ช่ำชอง มนสิการด้วยจิตที่เป็นญาณวิปยุต ก็เป็นไปได้ในระหว่าง ๆ
(แต่) ทั้งหมดนั้น เป็นบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยเจตนาอย่างเดียว ด้วย
สามารถแห่งกุศลเจตนาที่เป็นมหัคคตะ หาเป็นบุญกิริยาวัตถุนอกนี้ไม่ (ทานมัย
สีลมัย). เนื้อความแห่งพระคาถา ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้วในหนหลังทั้งนั้น.
จบอรรถกถาปุญญกิริยาวัตถุสูตรที่ 1

2. จักขุสูตร


ว่าด้วยจักษุ 3 อย่าง


[239] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้
สดับมาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ 3 อย่างนี้ 3 อย่างเป็นไฉน ? คือ
มังสจักษุ 1 ทิพยจักษุ 1 ปัญญาจักษุ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ 3 อย่าง
นี้แล.